rgb72 Blog, Technology, Internet Marketing, Hardware, Software, and Web Design Reviews

วันเสาร์ที่ ๑๓ กันยายน พ.ศ. ๒๕๕๑

ข่าวสั้น

มา update ข่าวแบบสั้นๆ กันหน่อย
ถือว่าเป็นการรวบรวมเอาข่าวคราวความคืบหน้าคร่าวๆ มาให้ได้รับทราบกัน

Google Chrome
หลังจากที่ Google Chrome ออกมา มีคนเขียน blog และข่าวถึงการให้ download กันมากมาย blog72 เลยคิดว่าอาจจะไม่จำเป็นต้องเขียน เพราะคิดว่าคนอ่านอาจจะได้รู้ข่าวจากหลาย source มามากจนลี่ยนแล้ว

Browser ตัวใหม่จาก Google ที่ถึงแม้ว่าจะไม่ได้มีข่าวคราวมากมายเหมือน Google Android แต่ว่า feedback ที่ได้รับนั้นถือว่าค่อนข้างดีมาก จาก "get clicky analytics service" วัดจำนวนคนใช้ได้ 1.92833% จาก 45,000 เว็บไซต์ ซึ่งแม้ว่าตอนนี้จะอยู่ในช่วงทดลองอยู่ นั่นหมายความว่า ยังมีโอกาสที่ตัวเลขของคนที่ใช้ Google Chrome นี้อาจจะลดลงเพราะไม่ประทับใจด้วยการ uninstall ตัว program ออก หรือก็ไม่แน่เช่นกันว่า หากประทับใจ ก็อาจจะ set Chrome เป็น browser default ของเครื่องเลยก็เป็นได้

สำหรับผมตอนนี้ยังไม่ได้ set เป็น default เพราะว่ายังสังเกตเห็นอาการต๊องๆอยู่บ้าง และหน้าตา UI ที่สีสันไม่สวยเอาซะเลย แต่ด้วยความเร็วในการ load เว็บหลายๆเว็บที่ต้องบอกว่าเร็วมากๆ ก็เลยทำให้ตอนนี้แทบจะลืม IE และ Safari ในทุกครั้งที่เล่น net ไปเลย

ทีนี้ลองมาดูสถิติการใช้ browser กันบ้าง (ข้อมูลอ้างอิงจาก w3schools.com เมื่อ August 2008)
IE7: 26.0% IE6: 24.5% IE5: 0.1% Firefox: 43.7% Safari: 2.6% Opera: 2.1%

--------------------------------------------------------------------------
โฆษณา Microsoft ตัวใหม่
อาทิตย์ที่ผ่านมา Microsoft ยิง TVC สองตัวเด็ดออกมาสู่สายตาชาวโลก โดยมีตัวแสดงนำคือ Jerry Seinfeld Stand up comedian ชื่อดังของอเมริกา และ Bill Gates .. คนนี้ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าคือใคร

โฆษณาทั้งสองตัวมีชื่อว่า The Future Delicious? กับ New Family ที่ใช้งบถึง 300ล้านเหรียญ สร้างความงุนงงให้กับคนดูพอสมควร หลายคนไม่เข้าใจว่า Microsoft พยายามสื่อสารอะไร เอาเป็นว่า วิธีที่ดีที่สุดคือ การไปดู TVC สองตัวนี้เอาเอง ลองดูจาก link ด้านล่างครับ
The Future Delicious? http://www.youtube.com/watch?v=afR5J7eskno
New Family: http://www.youtube.com/watch?v=gBWPf1BWtkw

--------------------------------------------------------------------------
TheFWA ออกหนังสือ "Guidelines for Online Success"

DO read this book - DON'T let it collect dust!

เมื่อ theFWA ออกหนังสือ จะเป็นหนังสือเกี่ยวกับอะไรไปไม่ได้นอกจากหนังสือเกี่ยวกับเว็บ ซึ่งเป็นการนำเอาเว็บไซต์ดีดีมารวบรวมและจัดหมวดหมู่ใหม่ รวมไปถึงการเขียนวิเคราะห์ สิ่งที่ควรและไม่ควรทำ และคำแนะนำต่างๆ หนังสือเล่มนี้เขียนโดย Rob Ford เจ้าของ theFWA และ Julius Wiedemann พิมพ์โดย Taschen ลองเข้าไปดูรายละเอียดได้ที่นี่ครับ http://www.taschen.com/pages/en/catalogue/design/all/05204/facts.guidelines_for_online_success.htm

--------------------------------------------------------------------------
Apple new iPod + iTunes
เมื่อวันที่ 9 กันยาที่ผ่านมา ทาง Apple ได้เปิดตัว iPod Nano ตัวใหม่ ซึ่งก็เป็นไปตามคาด หน้าตาก็เหมือนกับภาพที่หลุดออกมาก่อนหน้านี้ โดย iPod รุ่นนี้ที่ออกมานอกจากจะมีหลากสีแล้ว ตัวเครื่องยังปรับให้กลับมาเป็นแบบยาว พร้อมหน้าจอที่ใหญ่ขึ้น และระบบการใช้งานที่สามารถเลือกผ่านหน้าปกได้เหมือน iPhone ด้วย แต่ที่ว่าเจ๋งก็คือ หากต้องการจะ shuffle song ก็สามารถทำได้ด้วยการเขย่าเครื่อง iPod

นอกจาก iPod ใหม่แล้ว Apple ยังออก iTunes version 8 มาด้วย ซึ่งก็มี Visualizer ตัวใหม่ และ feature ใหม่อีก 2 อย่างคือ Genius (ระบบการเลือกเพลงให้จาก iTunes Store) และ การเลือกเพลงจากหน้าปก

จากการเปิดตัว iPod Nano คราวนี้ ความเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ชัดเจนเลยก็คือ การเลหลังขาย iPod Nano รุ่นเก่าตามร้าน Mac ที่ตอนนี้รีบเทขายกันก่อนที่ตัวใหม่จะมาถึงเมืองไทย

วันอาทิตย์ที่ ๗ กันยายน พ.ศ. ๒๕๕๑

CLASS / Week นี้เสียว (จะท้องเสีย) ที่สุด


หลังจากที่ได้เรียนได้สอนกันมานาน เทอมที่ 2 ก็ใกล้จะหมดอีกแล้ว วันนี้เตรียมท้องไปตั้งแต่เช้าเพื่อที่จะไป review งานที่ได้ให้นศ.ไปทำในช่วง 1 อาทิตย์ที่ผ่านมา นั่นคือ การเปิดโอกาสให้นศ.ได้ลองทำน้ำผลไม้ใหม่ โดยให้มีส่วนผสมระหว่างผลไม้ไทย และ ผลไม้ต่างชาติ (ที่แต่ละกลุ่มได้) ซึ่งต้องขอบอกก่อนเลยว่า ทีแรกนั้นกะว่าจะไม่กินเลย เพราะว่ากลัวท้องเสีย แต่พอเข้าไปใน class แล้วก็อดไม่ได้ที่จะต้องชิมซะหน่อย และผลที่ออกมาก็เป็นดังนี้

กลุ่มที่ 1,2 จับได้ Brazil เลยเอาน้ำมะม่วงหิมพานต์ที่มีถิ่นกำเนิดแถวๆอเมริกาและบราซิล มาผสมกับน้ำส้มโอของเอเชีย รสชาติออกมาแปลกๆ แถมตอน present ทีแรกมีการให้ลองชิมก่อนแล้วให้ทายว่ามีส่วนผสมของอะไรบ้าง รสชาติที่ออกมามีหวานนิดๆ ติดขมด้วยอีกหน่อย ทำให้รู้สึกใสๆ บอกไม่ถูก แอบสดชื่นนิดๆ ซึ่งสุดท้ายทางทีมที่ทำออกมาบอกว่า มีส่วนผสมของโซดาอยู่ด้วยนิดหน่อย เลยคิดว่าอาจจะเป็นเพราะตัวนี้ล่ะมั้ง
กลุ่มนี้มี idea ดีตรงการตั้งชื่อ ชื่อน้ำผลไม้นี้ตั้งชื่อมาว่า น้ำ "Cashmelo" ที่มาจากคำว่า "Cashewy" น้ำมะม่วงหิมมะพานต์ และคำว่า "Pomelo" น้ำส้มโอ

กลุ่มที่ 3,4,5 จับได้ "Afarica" ทำหน้าสัปปะรดผสมน้ำฝรั่ง มีข้อดีตรงที่สีของน้ำนั้นดูสวยใส น่ากิน ส่วนรสชาตินั้นก็อร่อย ทานง่าย ส่วนหนึ่งเป็นเพราะการผสมกันของน้ำ 2 อย่างที่เราเหมือนจะคุ้นเคยกันอยู่แล้ว ทำให้เมื่อกินไปแล้วไม่รู้สึกแปลกลิ้นอะไร Package ของกลุ่มนี้ทำออกมาดูดีใช้ได้ comment หลักๆที่มีให้เห็นจะเป็นแค่ wording ที่เขียนอยู่บนกล่อง ที่มีขนาดเล็กเกินไปและการจัด position ยังไม่ดี

กลุ่มที่ 6,7,8 นี้ได้ประเทศอียิปต์ เลยเอาน้ำฝรั่ง ผสมกับน้ำลูกพลัม โดยทางทีมบอกว่าลูกพลัมนั้นไปซื้อกันมาแบบสดๆ แล้วเอามาปั่นรวมกับน้ำฝรั่ง ส่วนหน้าตานั้นออกมาเป็นสีออกแดงๆ หน่อย เนื่องจากได้ใช้ลูกพลัมสีดำ (ทำให้น้ำออกมาเป็นสีแดง) และมีลักษณะเป็นน้ำข้นๆ ที่ทีแรกก็เข้าใจว่าอารมณ์เหมือนน้ำ V8 ซึ่งท้ายสุดทางทีมก็บอกมาว่า อยากให้เหมือนอย่างนั้นอยู่เหมือนกัน สำหรับรสชาตินั้นออกมาแบบเปรี้ยวๆ บางคนชอบ บางคนก็ไม่ชอบ แต่สำหรับผมนั้นว่า ก็อร่อยดีไปอีกแบบ ไม่เลี่ยนดี ส่วนเรื่องของ package นั้น ใช้รูปภาพ graphic ที่บ่งบอกถึงความเป็นอียิปต์ได้ชัดเจนมาก (ไม่ชัดได้งัย) อย่างไรก็ตามรูปภาพบนกำแพงนี้ ทำให้ตัวกล่องดูแข็ง ประกอบกับโทนสีน้ำตาล ซึ่งอาจจะไม่เข้ากับน้ำข้างในที่เป็นสีแดง สำหรับเรื่องที่ต้องแก้ไขก็คือเรื่องของ wording บนตัวกล่องที่น่าจะต้องมีบอกว่าข้างในเป็นน้ำอะไรบ้าง เพื่อเป็นการ communicate กับลูกค้าได้ เพราะเพียงแค่รูปภาพทางด้านล่าง (ที่ดูจะอยู่นอกจุดสนใจ)อาจจะไม่พอ และอาจจะทำให้น้ำรสชาติดีดีไม่สามารถส่งถึงลูกค้าได้ เพราะลูกค้าไม่รู้ว่า ข้างในกล่องสีน้ำตาลที่บอกว่าเป็นอียิปต์นี้ มีอะไร

กลุ่มที่ 9, 10, 11 ออกมาเป็นกลุ่มแรกเลย กล้าหาญมาก เราเลยกล้าหาญกิน (จากทีแรกกะว่าคราวนี้จะไปกินเลย กลัวท้องเสีย) กลุ่มนี้ได้ประเทศอิตาลี ซึ่งก็ได้ผลลัพท์ออกมาเป็นน้ำมังคุด ผสม น้ำลูกพรุน ดูหน้าตาไม่ค่อยหน้ากินเท่าไร่ สีเหมือนน้ำชีวภาพ ก็คงจะเป็นเพราะน้ำลูกพรุนที่มีสีดำนำมาเลย อย่างไรก็ตาม รสชาติที่ได้นั้นอร่อยกว่าที่เห็น มีรสหวาน อร่อย ทานง่าย สิ่งที่ติดใจสำหรับกลุ่มนี้นอกจากน้ำแล้วนั้น ตัว Ad ที่ทำมาให้ดูโดยนำเอาศิลปะของ Michael Angelo มาผสมเพื่อให้ได้อารมณ์อิตาลีนั้น ทำได้ดูดี และเป็นจริงได้

ผลสรุปจากการได้ทดลองทำน้ำใหม่ๆนี้ขึ้นมา ทำให้ผมนั้นตัวร้อน และรู้สึกเมาไปพักหนึ่ง ซึ่งก็งงเหมือนกันว่าเมาได้งัย ทั้งๆที่กินแต่น้ำผลไม้ (หรือว่ามีใครแอบใส่แอลกอฮอล์) อย่างไรก็ตาม การทำการบ้านคราวนี้เราพยายามฝึกให้ทุกคนได้ร่วมกันทำงาน ร่วมกันคิด หาอะไรใหม่ๆ ได้ทำการ research และรู้จักกับผลไม้แต่ละชนิด รู้จักทดลองก่อนนำเอามาใช้จริง ถึงแม้ว่าจะท้องเสียกันไปเยอะก็เถอะ สุดท้ายแล้ว โดย idea ของผมในการให้ทำการบ้านแต่ละครั้งนั้นก็เหมือนกัน คือ กว่าที่เราจะ creative ได้นั้น เราต้องหัดคิด ได้เจออะไรใหม่ๆ ได้ทดลอง แล้วเมื่อถึงเวลาที่ต้องคิดต้องทำจริงๆ เราก็พร้อม และมีความชำนาญพอควรสำหรับสินค้าหรืองานชิ้นนั้นๆ

"More input, more output"

วันพฤหัสบดีที่ ๔ กันยายน พ.ศ. ๒๕๕๑

Asia Rising (by rgb72)








Asia Rising บริษัทในกลุ่มธนาคารไทยพาณิชย์ที่ได้จัดตั้งขึ้นใหม่เพื่อทำหน้าที่บริหารเงินของลูกค้ารายใหญ่ให้สามารถผลิดอกออกผลได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ซึ่งทาง rgb72 ได้เข้าไปทำงานร่วมกับลูกค้าตั้งแต่การจัดวางโครงสร้าง การออกแบบ การเรียบเรียงและจัดวาง content

ความยากของงานนี้คือข้อมูลที่มีมากมายและความต้องการที่จะให้เว็บไซต์นี้สามารถอ่านได้ง่าย สบายตา และยังคงดูดีแสดงถึงภาพลักษณ์ของ Asia Rising ที่เน้นความหรูหรามีระดับ ซึ่งความต้องการทั้งสอง (ข้อมูลที่มาก และ รูปแบบที่อ่านง่ายดูดี) นั้นอยู่ในทิศทางที่ตรงข้ามกันโดยสิ้นเชิง

การแก้ปัญหาในด้านการออกแบบคือการจัดรูปแบบ content ให้ดูไม่อึดอัด และพยายามวาง layout ให้ดูแปลกตาในแต่ละหน้า (โดยเฉพาะหน้าที่มีข้อมูลมากๆ) เช่นการวาง column ที่เหลื่อมกัน หรือการจัด column ที่ต่างกันไป อย่างไรก็ตามในความต่างของ layout นั้น จำเป็นต้องคง theme concept ให้คงอยู่ด้วย ทั้งนี้เพื่อไม่ให้ user สับสนได้ว่าตนเองนั้นหลุดมาอยู่เว็บไซต์อื่น หรือว่ายังอยู่ในเว็บไซต์เดิม

ถึงแม้ว่า logo ของ Asia Rising นั้นจะมีสี แดง ส้ม และ เหลือง แต่การใช้สีน้ำเงินในการออกแบบงานธุรกิจที่ต้องการเน้นให้ดูมั่นคงนั้น ยังคงจำเป็นอยู่มาก ซึ่งในการออกแบบนี้สีน้ำเงินสามารถทำงานได้ดี และเป็นตัวหลักในแต่ละหน้า อย่างไรก็ตาม สีส้มแดง ได้ถูกแซมเข้ามาบนมุมขวาบน เพื่อยังคงสีของบริษัท และทำให้ภาพรวมดูแล้วมีสีสันมากขึ้น ไม่จืด

ในการออกแบบได้มีการนำ font Helvetica เข้ามาช่วย โดยใส่เข้ามาเป็นรูปภาพที่ถึงแม้ว่าจะทำให้มีผลต่อการ load บ้าง แต่เมื่อแลกกับความสวยงามแล้ว การ download รูปภาพตัวอักษรไม่กี่ตัวก็น่าจะคุ้มค่ากัน โดย Helvetica นั้นสร้างความรู้สึกที่สบาย น่าอ่าน ดังนั้นในหลายๆหน้าจึงได้มีการใช้ font นี้เพื่อแสดงข้อมูลสำคัญต่างๆ ทั้งนี้หากหน้าใดที่มีข้อมูลมาก เมื่อลูกค้าเข้ามาแล้วผ่านไปเร็วๆ ก็ยังคงสามารถอ่าน text hi-light นี้ได้ทันในรูปแบบที่กระชับ ได้ใจความ

ถึงแม้ว่าเว็บนี้จะ online มานานแล้ว แต่ว่าในส่วนของ content นั้นเพิ่งจะเสร็จเรียบร้อยไปแล้วประมาณ 80% จึงได้นำมา review เป็น showcase ของ rgb72 กันในวันนี้ ซึ่งงานนี้ได้มีการออกแบบตัวต้นแบบโดยกระผมเอง และร่วมกับการออกแบบ content หน้าด้านในโดยน้องแอน ซึ่งงานนี้ต้องยก credit ให้เพราะว่าน้องแอนทำงาน design จริงๆไปกว่า 80% ถึงแม้ว่าผมเองจะทำต้นแบบก็เถอะ.. ต้องยกนิ้วให้.. น้องเค้าแน่จริงๆ :-)
* สรุปรายชื่อผู้ร่วมงาน Designer: เก่ง / HTML, Content Developer: แอน / Flash Animator: Nora / Database Programming: Bee

** สามารถเข้าไปดูเว็บไซต์จริงได้ที่ http://www.asia-rising.com

วันพุธที่ ๓ กันยายน พ.ศ. ๒๕๕๑

Logo (Part2)

ว่าแล้วอยากจะหยิบยกเอา logo ดีดีที่มีความหมายในตัวเองและประวัติที่น่าสนใจมา review ให้ได้อ่านกัน แต่ว่าจะเอาเยอะๆ ก็ไม่ไหว (เขียนแล้วเหนื่อย) ก็เลยคิดว่า เอาซัก 4 logos ในครั้งนี้ก่อนละกัน


เริ่มต้นด้วย Logo ที่หลายคนบนโลกนี้รู้จัก นั่นคือ logo ของ Microsoft, logo นี้ออกแบบโดย Microsoft เอง (Scott Baker) ในปี 1987 ทั้งๆที่บริษัทนี้เป็นที่รู้จักมาตั้งแต่ปี 1970 แล้ว แต่ว่ารู้จักกันในนามของ Micro-Soft โดยความหมายของขีดที่อยู่ตรงกลางระหว่างตัว O กับตัว S นั่นหมายถึง ความเร็ว หรือ Speed นั่นเอง


ตามมาติดๆ ด้วย logo ของบริษัทรถยนต์ที่เป็นที่รู้จักกันดี Mitsubishi (มิตซูบิชิ) โดยตัว logo นั้นออกแบบในปี 1870 โดย Yataro Iwasaki ซึ่งตัว logo นั้นมีความหมายตามชื่อ Mitsubishi ของมัน เนื่องจากในภาษาญี่ปุ่นคำว่า "Mitsu" นั้นแปลว่า สาม ส่วนคำว่า "hishi" นั้นหมายถึง เพชร แต่พอเวลาเอามาเรียกเข้าด้วยกันแล้วเลยออกเสียงว่า "Mitsubishi" ดังนั้นตัว logo เลยออกมาเป็นรูปเพชรสามอันที่มีมุมด้านหนึ่งมาชนกันตรงกลางนั่นเอง


Logo ต่อมายังไม่ไกลจากธุรกิจรถยนต์เท่าไร่นัก นั่นคือ logo รถยนต์ Mazda, logo นี้ได้ถูกปรับในปี 1997 จาก logo ตัว 'M' ในอดีตให้มาเป็นรูปตัว 'M' ที่มีรูปทรงคล้ายตัว 'V' แบบนี้แต่ว่ามีการยืดให้กว้างขึ้น โดยความหมายนั้น ทาง Mazda ต้องการให้เป็นสัญลักษณ์รูป ปีก ที่เปิดรับพร้อมจะก้าวสู่อนาคต


Logo ที่ 4 เป็น logo ที่หลายคนคุ้นตากันดี logo ของบริษัท Unilever ที่ออกแบบในปี 2004 โดย Wolff Olins ที่ได้นำเอา logo รูปตัว 'U' ซึ่งถือว่าเป็นสัญลักษณ์อันเก่าแก่ตั้งแต่ปี 1970 มาใช้ สำหรับ concept ของ logo นี้ก็คือ "to add vitality to life" โดยในตัว logo รูปตัว U นี้ ประกอบไปด้วยภาพ illustration ทั้งหมด 25 ภาพที่แสดงให้เห็นถึงความเป็น Unilever ได้อย่างชัดเจน เช่น ภาพช้อน หมายถึง โภชนาการ, ภาพเสื้อ หมายถึงการซักผ้าที่สะอาด, หรือภาพผึ้งที่หมายถึงความขยันในการทำงาน




(ข้อมูลจาก http://www.unilever.co.uk/ourcompany/aboutunilever/introducing_unilever/ourlogo/ และเว็บไซต์ http://worldsbestlogos.blogspot.com/2008/01/unilever-logo.html)