rgb72 Blog, Technology, Internet Marketing, Hardware, Software, and Web Design Reviews

วันอังคารที่ ๑๒ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๐

Safari on Windows


เปิดตัวไปได้อย่างน่าตกใจ (สำหรับชาว mac แต่คนใช้ pc ไม่รู้จะตื่นเต้นรึเปล่า) กับ browser ที่มาพร้อมกับ OS อย่าง Safari คราวนี้มี version 3 beta มาให้สำหรับ windows ด้วย ลองเข้าไปดูนะครับ หรือจะลอง download มาเล่นดู ก็น่าจะดี เค้า claim ว่ามี feature ใหม่ๆ หลายอย่าง พร้อมทั้งยังบอกว่าสามารถ load page ได้เร็วกว่า ie7 ถึง 2 เท่า และ firefox ถึง 1.6 เท่า

จะลองก็เข้าไป load ได้ที่ http://www.apple.com/safari/

Apple.com redesign




เรียกได้ว่ารีบเอามาให้ดูกันแบบสดๆเลย website design ใหม่นี้ launch หลังจาก keynote การเปิดตัว Leopard (อีกรอบ) ในงาน WDDC2007
เข้าได้จาก http://www.apple.com

วันอาทิตย์ที่ ๑๐ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๐

Screen Resolutions

ดูมาอยู่นาน พยายามหาอยู่ว่า ณ ขณะนี้ ขนาดของจอ resolution นั้น ชาวบ้านเค้าพากันไปถึงไหนแล้ว เราจะได้ develop งานกันถูก เอาเป็นว่า วันนี้ได้มาคร่าวๆก่อน เป็น stat ล่าสุดปี 2007 โดยการนำเอา stat จาก 80,000 visitor ลองดูนะครับ

51.80% : 1024×768
12.04% : 1280×1024
10.88% : 800×600
8.83% : 1280×800
3.58% : 1152×864

จะเห็นได้ว่า 800x600 นั้นค่อนข้างจะล้มหายตายจากไปเยอะแล้ว ที่มีเพิ่มมากขึ้นอย่างรวดเร็วก็คือ 1024x768 ซึ่งก็อาจจะเป็นผลมาจากการที่เดี๋ยวนี้คนใช้ laptop กันมากขึ้น สำหรับอีก size หนึ่งคือ 1280 นั้น ก็มีตัวเลขเพิ่มขึ้นมาเยอะเช่นกัน คือดูจากเว็บอื่นๆ ก็เห็นว่า trend มาอะไรประมาณนี้เหมือนกัน

วันเสาร์ที่ ๙ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๐

Shrek the third



เปิดตัวกันไปเรียบร้อยสำหรับ Shrek The Third ผมยังไม่ได้ไปดูแต่ว่ากันว่าภาพสวยมาก ทาง DreamWorks ก็ได้ออกมาเปิดเผยเบื้องหลังความสำเร็จในครั้งนี้ด้วย ยังไงก็คงหนีไม่พ้นเครื่องมหาศาล เพราะหนังเรื่องนี้ทั้งเรื่องใช้เวลาลงแสงเงาประมาณ 30 ล้านชั่วโมง หรือมากกว่า 3000 ปีนั่นเอง (Shrek ใช้ 5 ล้านชั่วโมง และ Shrek 2 ใช้ 20 ล้านชั่วโมง) ลองมาดูทีละอย่างดีกว่า

Render Engine ใช้ Maya
Render Plugin ของเก่าเขียนเองด้วย C และ Perl ถ้าเขียนใหม่จะใช้ C++ กับ Python
ระบบปฏิบัติการเป็น RedHat Enterprise Linux 4
Render Farm เป็น HP DL145 G2 ข้างในใช้ซีพียู AMD Opteron 275 ไม่ก็ 285 สองตัว รวมแล้วเครื่องนี้มี 4 คอร์ แรมเครื่องละ 8 GB รวมทั้งหมดมากกว่า 3000 เครื่อง (เค้าบอกว่า 3000+)
กระจายแบบหนึ่งเฟรมหนึ่งโหนด (คิดว่าหนึ่งคอร์นะ)
ระบบกระจายงานที่ใช้คือ LSF ซึ่งในงานนี้ได้ใส่ Grid เข้าไปด้วย
เนื่องจากงานแบบนี้เป็นแบบ High Throughput ความสามารถในการขยายตัวค่อนข้างดี เราสามารถสมมติว่าไม่มีโอเวอร์เฮดของสื่อสารภายใน นั่นแปลว่าระบบนี้มีอย่างน้อย 12000 คอร์ซึ่งก็น่าจะลดเวลาจาก 30 ล้านชั่วโมงเหลือ 2500 ชั่วโมง หรือ 104 วันโดยประมาณ

คนทำบอกว่าเวลาดูเรื่องนี้ให้ดูที่ "ขน" กับ "ไฟ" ผมยังไม่ได้ดูใครดูแล้วช่วยมาบอกความงามหน่อย

ที่มา - Linux Journal

Netscape Navigator 9 beta 1

Netscape Navigator 9 คือการเอา Firefox มาแปลงร่าง เพิ่มฟีเจอร์ที่ใช้กับ Netscape.com เข้ามาซะเยอะ ที่น่าสนใจมีดังนี้

ตรวจ URL อัตโนมัติ เช่น แก้ googlecom เป็น google.com ให้
Link Pad - sidebar สำหรับเก็บลิงก์ที่ยังไม่มีเวลาอ่าน
Sidebar Mini Browser - ท่องเว็บแบบสองจอคู่ อีกหน้าไปโผล่ใน sidebar
รายการฟีเจอร์ฉบับเต็มอ่านได้ ที่นี่ ใครลองเล่นแล้วก็มาเล่าให้ฟังหน่อยว่าเป็นไงบ้าง

ที่มา - Linux.com

Core Animation สิ่งใหม่ๆ จาก Apple

หลายคนเฝ้าติดตามกันอยู่ว่า วันจันทร์นี้เวลาค่ำๆ (ประเทศไทย) ที่งาน WDDC ซึ่งจัดโดย Apple นั้น Steve Jobs จะออกมาพูดอะไรบ้าง สิ่งที่แน่นอนที่เห็นได้ชัดเลยก็คือ การเปิดตัว iPhone และการเปิดตัว OSX ตัวใหม่ code name ว่า Leopard

Leopard คาดการณ์ว่าจะเข้ามาเปลี่ยนแปลง interface ของ computer ในโลกปัจจุบันให้เป็นสิ่งที่ล้าสมัยและน่าเบื่อกันไปข้างหนึ่งเลย เพราะด้วย feature CORE ANIMATION ที่จะช่วยเสริมความสามารถด้าน animation ให้กับ OSX ตัวใหม่นี้จะทำให้ developer นั้นสามารถเล่นอะไรได้เยอะขึ้นกับ interface บน desktop

ดังตัวอย่างที่จะให้ดูด้านล่างนี้

ด้านล่างนี้คือตัวอย่างของ program ใหม่ที่ชื่อว่า Disco ซึ่งเป็น program สำหรับ burn CD จุดเด่นก็คือขณะที่ program นี้ทำการ burn CD ด้านบนของกรอบ window ก็จะมีควันลอยออกมา ซึ่งหากเราเป่าลมเข้าไปทาง microphone ที่ติดอยู่กับเครื่อง ก็จะทำให้ควันนั้นเหมือนกับว่าถูกลมปากเราพัดออกไปยังงัยอย่างนั้น



ทั้งหมดนี้ก็ต้อง Core Animation ที่ว่าน่ะแหละ ที่จะช่วยเสริมเรื่อง graphic ให้กับ interface ของ mac OSX Leopard

วันอังคารที่ ๕ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๐

MultiTouch มาอีกแล้วว


แต่คราวนี้มาพร้อมกับ invention ใหม่จาก Microsoft.. Coffee Table

ไม่พูดมาก ลองดูเอาเองละกัน วิธีการโหลดรูปเข้ากล้อง ออกจากกล้อง เท่ซะไม่มี หรืออีก clip หนึ่งเป็นการ show การเล่นหมากรุกข้ามประเทศ แต่ดูแล้วเหวอๆยังงัยไม่รู้

การพบกันของ 2 ผู้ยิ่งใหญ่



เมื่อไม่นานมานี้ได้มีการให้สัมภาษณ์ 2 ผู้ยิ่งใหญ่ต้องเรียกว่าของทศวรรษนี้เลยก็ได้ เพราะว่าเค้าทั้ง 2 คือ Steve Jobs และ Bill Gates ซึ่งทั้ง 2 คนนี้นานทีจะมาเจอกันจังๆอย่างนี้ซักที

ลองเข้าไปดูได้ที่ http://d5.allthingsd.com/20070531/video-steve-jobs-and-bill-gates-highlight-reel นะครับ

สำหรับใครที่ฟังไม่ค่อยออก (ซึ่งผมเองก็ฟังยังไม่รู้เรื่องเท่าไร่ เพราะขำกันซะเยอะ) ก็สามารถเข้าไปอ่าน script ได้นะครับในนั้นจะมีตัวเลือกให้อ่าน

Brightcove new way to deliver video


วันสองวันนี้ได้รู้จักกับ Brightcove (brightcove.com)

ที่ได้รู้จักก็เพราะว่าได้เข้าไปดู video demo การนำ multitouch มาใช้บนโต๊ะโดย Microsoft และ video การให้สัมภาษณ์ของ 2 ผู้ยิ่งใหญ่ Steve Jobs และ Bill Gates ที่ All things Digital ซึ่งทั้ง 2 ที่นี้ใช้การแสดง video streaming จาก Brightcove

ที่ติดใจอย่างแรกคือ interface หน้าตาที่สวยจริงๆ ดูแล้วน่าใช้มากๆ เป็นการนำความสามารถของ flash มาใช้ได้อย่างดี

แต่ข้อเสียที่สัมผัสได้คือ มีความรู้สึกว่า Brightcove นี่จะ require bandwidth ที่สูงใช้ได้เลยทีเดียว (ซึ่งตรงนี้อาจจะไม่มีปัญหาสำหรับ user ในอเมริกา)

Brightcove เป็นบริษัทที่ทำ video delivery คล้ายๆกับ youtube น่ะแหละแต่ว่าเจ๋งกว่า หลักๆคือเราสามารถ upload video ของเราขึ้นไปได้ และทำ link ให้สามารถแสดง video เหล่านั้นบนเว็บของเรา และก็แน่นอนสามารถ search และดูได้จากเว็บของ brightcove เอง

แต่ brightcove มีมากกว่านั้น

Brightcove มี features ที่น่าสนใจมากๆ นั่นคือการส่งเสริมทางด้านการขาย media และ advertising จาก video ของเรานี่แหละ เช่น หากเรามี video ที่เราทำ ไม่ว่าจะเป็น music video หรือ content ที่น่าสนใจต่างๆ เราก็สามารถเก็บเงินจากตรงนี้ได้ หรือเราสามารถที่จะทำการขายโฆษณาสำหรับ content เราได้ (พวกโฆษณาที่ขึ้นก่อนหน้าที่เราจะได้ดู video จริงน่ะแหละ) โดยการขายโฆษณาตรงนี้ ทาง brightcove ให้ option เรา 2 อย่าง คือ ทั้งแบบเราหา sponsor เอง หรือทาง brightcove เป็นคนจัดการให้ (แล้วรายได้ก็หารกันครึ่งๆ)

นอกจากนี้ เรายังสามารถสร้าง Internet TV เป็น ช่องของเราเองได้ง่ายๆ แน่นอนในความหมายของคำว่า Internet TV ก็คือ ช่องที่มีรายการ TV เยอะๆ มีอะไรให้ดูตลอดเวลา ไม่ใช่แค่ clip ดังนั้น ด้วยระบบจัดทำขึ้นมาขอ brightcove สามารถทำให้เรานั้นเข้าไป manage content ที่มีอยู่ได้ เรียบลำดับการขึ้นของ content ก่อนหลังได้ ตั้งเวลาได้ และแน่นอนเรื่องเดิม คือมีการจัดการด้านการโฆษณาได้

Brightcove เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้เห็นว่าธุรกิจ online ตอนนี้ชักจะรุ่งใหญ่แล้ว จากที่ได้อ่านในนาสพ.ไม่นานมานี้ว่า เม็ดเงินจากการโฆษณาปกติ ไม่ว่าจะเป็น สื่อสิ่งพิมพ์หรือสื่อโทรทัศน์นั้นชักจะหายลงไปเรื่อยๆ แต่กลับเทมาให้กับสื่อออนไลน์ได้เยอะไม่น่าเชื่อ ว่าแล้วเดี๋ยวจะหา ตัวเลขพวกนั้นมาให้อ่านกัน

สำหรับใครที่สนใจจะอ่าน ก็เข้าไปดูรายละเอียดและ interface ที่ว่าสวยงามนักสวยงามหนาได้ที่ brightcove.com