rgb72 Blog, Technology, Internet Marketing, Hardware, Software, and Web Design Reviews

วันเสาร์ที่ ๒๙ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๕๒

ละคร Sitcom

วันนี้ได้มีโอกาสดูละคร sitcom ทางช่อง 9 เรื่อง "บางรักซอย 9" พลางให้นึกไปว่า เราได้รู้จักตัวละครเหล่านี้มานาน นานจนเราก็คิดว่า คนเหล่านี้มีบุคลิกแบบนั้นจริงๆ นึกต่อไปอีกก็พบว่า เราได้ดูละครเรื่องนี้มานานหลายปี

ไม่อยากจะเชื่อแต่ก็ต้องเชื่อ ว่าก่อนหน้านี้เมื่อ 10 ปีที่แล้ว (ฟังดูเหมือนนานมาก) ผมติดละคร sitcom เรื่อง Friends มากๆ ดูมายาวนานจนละครจบ นั่นคือ 10ปี กว่าจะถึงตอนสุดท้าย ช่วงแรกที่ได้ดู Friends ผมคิดว่า ผมไม่ชอบไอ้เสียงหัวเราะปลอมๆที่อัดมาจากที่ไหนซักแห่งแล้วมาเปิดเวลาถึงจุดที่สมควรหัวเราะ เหมือนว่ามาช่วยบิ้ว หรือมาช่วยบอกเราว่า นี่ต้องขำแล้วนะ

ดูแรกๆไม่ชอบเลย คิดว่ามัน fake ยังงัยก็ไม่รู้

แต่ดูไปนานๆ ชักชอบ แล้วก็ติด บางฉากเราสังเกตุดูว่า จริงๆแล้วถ้าเราดูเองคงจะไม่ขำมาก แต่พอมีเสียงพวกนี้มาช่วยก็ทำให้เรารู้สึกสนุกมากขึ้นไปอีก

พอดู Friends ก็ทำให้ต้องนึกถึงละครไทย ว่า "เอ้..​ละครบ้านเรา (สมัยนั้น) ไม่มีเสียงหัวเราะนี่หว่า แต่ว่าเราก็ขำกันได้ และขำได้มากๆซะด้วย" หรือเป็นเพราะว่า ละครไทยมันสนุกจริงๆ เลยไม่จำเป็นต้องมีคนบิ้ว

พอดูมาได้ซักพัก ละคร sitcom ของ Exact ก็ออกมา ในรูปแบบที่มีเสียงหัวเราะปลอมๆแบบนี้

ครั้งแรกที่ได้ยิน ก็คิดว่า..​มันต้องไม่ work แน่..​คนไทยไม่น่าจะชอบอะไรแบบนี้ เพราะสมัยแรกๆนั้น หนัง series ที่สนุกๆของอเมริกาที่มีเสียงหัวเราะแบบนี้ก็ยังไม่ได้เป็นที่นิยมในไทยด้วยเช่นกัน

ผ่านมาแล้วเกือบ 10ปีสำหรับ "บางรักซอย9" แล้วก็ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดีด้วย

การเขียนครั้งนี้ไม่ได้ตั้งใจจะบอกอะไร แค่เป็นอีกเรื่องหนึ่งของการสังเกตุสิ่งที่อยู่รอบๆตัว และเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ผมคาดการณ์ผิด

วันพฤหัสบดีที่ ๑๓ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๕๒

Sansiri on iPhone



Preview หน้าตาการออกแบบเว็บ iphone.sansiri.com ซึ่งเป็น Sansiri.com ในเวอร์ชั่นเฉพาะสำหรับ iPhone เท่านั้น ทาง rgb72 ได้ทำการออกแบบโดยในขณะนี้ version ที่ออกมาให้ดูเป็นแบบ coming soon ที่สามารถให้โทรออกได้จาก web และดูได้ในแบบ vertical และ horizontal

ว่าแล้วก็แถม เอาภาพที่ได้ capture ไว้ตอนกำลังออกแบบมาให้ได้ดูด้วย

Sansiri Digital Era





เปิดตัวไปแล้วสำหรับงาน Sansiri Digital Era โดยงานนี้เป็นการประกาศอย่างเป็นทางการของก้าวใหม่ที่สำคัญในการเป็นผู้นำทางด้าน online marketing ซึ่งบริษัทอสังหาริมทรัพย์เจ้าอื่นยังไม่ได้ทำอย่างจริงจัง

ในงาน ทางแสนสิริได้เปิดตัว เว็บไซต์ใหม่ที่จัดทำและออกแบบโดย rgb72 ร่วมกับทาง Dreambase ที่ทำในส่วนของ Sansiri Family ซึ่งเป็น CRM ของทางแสนสิริ นอกจากนี้ยังได้แนะนำการเข้าไปร่วมกับ social network ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น YouTube, Facebook และ Twitter ซึ่งเป็นการ update ไม่ใช่แค่ promotion ต่างๆเท่านั้น แต่ยัง update เรื่องราวกิจกรรมของลูกบ้านแสนสิริด้วย

นอกจากนี้ ทางแสนสิริได้เปิดตัว Sansiri on Mobile ที่ให้บริการผู้ที่เข้าเว็บไซต์ sansiri.com ผ่านมือถือ smart phone ยี่ห้อต่างๆ รวมไปถึง iPhone โดยสำหรับมือถือยี่ห้อต่างๆ เราได้ทำ WAP เป็นตัวรองรับ และนำเสนอข้อมูล แต่สำหรับ iPhone เราได้ทำเป็น Sansiri on iPhone ขึ้น เป็น version พิเศษ และงานนี้ทางแสนสิริก็ได้ให้ความไว้วางใจ rgb72 เป็นผู้จัดทำอีกครั้ง

งานในวันจันทร์ที่ผ่านมา (10 สค. 52) ผมได้ขึ้นไปในฐานะกรรมการบริษัท rgb72 ผู้จัดทำเว็บ sansiri.com ได้พูดถึงเบื้องหลังแนวความคิด และการออกแบบตัวเว็บไซต์ใหม่ให้เน้นเรื่อง web usability เป็นหลัก โดยยังไม่ทิ้งเรื่องของความสวยงาม และได้มีคุณเปิ้ลจาก Dreambase ขึ้นมาพูดในส่วนเนื้องานของ Sansiri Family ที่ทาง Dreambase เป็นผู้ develop ให้ และสุดท้ายทางแสนสิริได้เชิญคุณเอิ้น ปานระพี ผู้ประกาศข่าวจากช่อง 7 และพี่ป้อม ภาวุธ เจ้าของ tarad.com ขึ้นมาให้ความเห็นเกี่ยวกับการใช้ social network มาทำเป็น online marketing tools

งานนี้จัดโดย Show No Limit ของคุณหนุ่ย ก็ต้องบอกว่าจัดได้ดีมาก งานสนุกสนานและเป็นกันเอง ดูแล้วเป็นงานที่สบายๆ ไม่เครียด เหมาะสำหรับการพูดคุยเรื่องราวเกี่ยวกับความทันสมัยในโลก digital จริงๆ

ได้ยินคนแอบพูดว่า ตอนขึ้นไปบนเวที คนที่อยู่บนเวทีที่เป็นเจ้าของบริษัทแต่ละที่ หน้าตายังดูเด็กๆกันทั้งนั้น ได้ยินแล้วก็แอบดีใจ แต่ก็อย่างว่า บริษัท online จะมีคนมีอายุมากๆได้ไง ในเมื่อตัว online เองก็เพิ่งจะเกิดมาได้ไม่นาน

สรุปแล้วงานวันนั้นที่ SFX Central World ก็ผ่านพ้นไปได้ด้วยดี งานเริ่มตั้งแต่ 9 โมงเช้า ยัน เที่ยงตรงพอดี ออกมาก็หิวได้ที่ ทานข้าวเสร็จก็ต้องวิ่งไปประชุมต่ออีก 2 ประชุม เหนื่อยมั่กๆ


รูปนี้จาก Nation ต้องขอบคุณพี่อั้ม @9aum ที่ไป capture มาได้ทันพอดี

วันศุกร์ที่ ๗ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๕๒

ทำ presentation อย่างไรให้โดนใจ

เหตุเกิดเมื่อประมาณ 2-3 อาทิตย์ก่อนหน้านี้ เมื่อนศ.ที่เคยสอนได้ขอนัดพบและบอกคร่าวๆว่า อยากให้ผมไปเป็นวิทยากร ที่ทางนศ.จัดงานสัมมะนา เมื่อไปพบ ทาง นศ.บอกว่า หัวข้อที่จะให้พูดในงานคือ "ทำ Presentation อย่างไรให้โดนใจ" ว่ากันง่ายๆก็คือสอนการทำ presentation ด้วย powerpoint ให้ดูน่าสนใจอะไรประมาณนั้น

หลังจากกลับมาทำการบ้านให้ได้คิดอยู่ซัก พัก ก็เริ่มเครียดนิดๆ ตรงที่ว่า หัวข้อและทฤษฎีของการทำ presentation ให้น่าสนใจนั้นมันไม่ยากหรอก แต่ความยากอยู่ที่ หากวันที่ไปพูดแล้ว presentation ของเราเองกลับไปน่าสนใจเองเลยนั้น ก็จะแปลว่า สิ่งที่เราสอน อาจจะไม่ work

หลังจากที่คิดรวบรวมข้อมูลในหัวแล้ว ก็เริ่มลงมือทำตัว presentation โดยมีแนวคิดว่า แทนที่จะสอนว่าให้ทำ presentation อย่างไร น่าจะสอนว่า ควรเตรียมตัวอย่างไรก่อนทำ present เรื่อยมาถึงการทำ presentation ด้วย powerpoint หรือ keynote และการทำอย่างไรเวลาต้องไปยืนพูดต่อหน้าสาธารณชน

เมื่อวานนี้ (6 สิงหาคม 2552) เป็นวันที่จัดงาน ผมต้องไปถึงที่นั่นตั้งแต่ 8 โมงเช้า การต้อนรับของนศ.เป็นไปได้ด้วยดี (จริงๆแล้ว นศ.โทรมาปลุกตั้งแต่ 6โมงครึ่ง ถามว่า อ.อยู่ไหนแล้ว .. ซึ่งขณะนั้นอยู่บนเตียง เพิ่งจะตื่น แต่ก็ต้องบอกไปว่า "กำลังไปอยู่คร๊าาบบบ")

เครื่อง Mac ที่ใช้ยัง work ดีอยู่เสมอ นักศึกษาเริ่ม setup เครื่องให้ จัดการเรื่องระบบทุกอย่างจนผมได้แต่นั่งรอเวลาที่จะเริ่มพูด ซึ่งในหมายกำหนดการคือ 9 โมงครึ่ง

9 โมง ประธานมาถึงงาน ทำพิธีเปิดงาน จากนั้นก็ถึงคิวของผม

9โมงครึ่งพอดี timing เป๊ะมาก

สิ่ง หนึ่งที่หนักใจตลอดการเตรียมตัวก่อนมาพูดก็คือ ความกลัวที่จะพูดได้ไม่ถึง 3 ชม.ตามที่นศ.กำหนดไว้ คืนก่อนหน้านี้พยายามซ้อมและคิดว่าจะหามุกหรืออะไรมาเล่นกับนักเรียนผู้ฟัง จะได้ไม่เบื่อแล้วก็ได้นานถึง 3ชม.

อย่าไรก็ตาม.. การ present ได้เริ่มขึ้นแล้ว

ผม พูดไปเรื่อยๆตามบทและ slide ด้านหลังที่ได้เตรียมมาไว้แล้ว ด้วยความกลัวว่าผู้ฟังจะเบื่อแล้วหลับ ผมเลยตั้งกฎเหล็กไว้สามข้อในการ present ครั้งนี้

1. ห้ามผู้ฟังหลับ ถ้าใครหลับจะเรียกออกมาทำโทษ ด้วยการทำอะไรก็ได้ตามที่เพื่อนๆสั่ง
2. ในการ present ผมจะพยายามทำบรรยากาศให้สนุกสนาน ดังนั้นห้ามเครียด และหากใครมีอะไรสงสัยสามารถยกมือถามได้ตลอดเวลา
3. หากใครเริ่มง่วงให้กลับไปดูข้อหนึ่งใหม่

การ present เป็นไปได้ด้วยดีตลอดเวลา 3 ชม.ที่ผมยืนอยู่บนนั้น แทบไม่น่าเชื่อว่ายืนอยู่โดยไม่นั่งเลยได้ไง แถมยังพูดได้เรื่อยๆตาม slide บ้าง ออกนอก slide บ้าง มีมุกสดบ้าง สนุกดี สำหรับน้องๆที่มาฟัง ซึ่งเป็นนักเรียน ม.6 นั้นก็สนุกดี เป็นกันเองมากๆ กล้าเล่นกล้าพูด ทำให้ตลอด 3 ชม.นั้นไม่น่าเบื่อเลย

ช่วง 1 ชม.ก่อนหน้าการพูดจะสิ้นสุดลง ผมได้เลือกจะขอให้นักเรียนที่ฟังอยู่ เลือกเพื่อนออกมาเต้นบนเวที เพื่อให้งานเกิดสีสัน ผมบอกว่า "ใครอยากขึ้นมา dance บนนี้บ้าง" แต่ไม่มีเสียงตอบรับ ผมเลยถามใหม่ว่า "ไหนเพื่อนๆลองแนะนำคนที่ให้ขึ้นมา dance หน่อย" ได้เสียงตอบรับมาอย่างล้นหลาม และกลายเป็นว่าชั่วโมงนี้เป็นอีกหนึ่ง hi-light ของงาน

น้องผู้ชายหน้าตาน่ารักทั้งสองคนขึ้นมาบนเวทีพร้อม กับฉุดน้องผู้หญิงขึ้นมาเป็นเพื่อน รวมแล้วสามคน ผมก็ต้องคิดมุกสดว่า จะให้พวกเค้า dance กันยังงัยดี

ผมบอกว่า "เอาเป็นว่าเรามา dance แข่งกันดีกว่า"

น้อง คนหนึ่งบอกว่า "ไม่เป็นไรค่ะอาจารย์.. ผมเตรียมเพลงมา" (อ่านแล้วอาจจะขัดๆนะครับ ไม่ได้เขียนผิด เธอบอกอย่างนี้จริงๆ มี "ค่ะ" ผสมกับ "ผม")

เตรียมเพลงมา แปลว่าอะไร งง?? ผมก็ไม่ได้ว่าอะไร เลยบอกว่า "งั้นผมขอลงไปนั่งดูข้างล่างนะ"

ว่าแล้วเพลงก็มา.. NO Body nobody but YOU!! ....

โอ โฮ้.. เพลง hilight น้องๆ dance กันตาม step สามคน เหมือนใน MV เป๊ะๆ แจ๋วมากๆ เพื่อนๆกรี๊ดกันลั่นห้อง สนุกมากๆ พากันตาสว่างกันเป็นแถว ต้องยอมรับว่า สามคนนี้ขึ้นมาแล้ว สนุกขึ้นมามากจริงๆ

จบ Dance ขั้นรายการแล้ว ผมก็บรรยายต่อ ซึ่งเหลืออีกไม่กี่ slide ก็จบแล้ว

พูดเสร็จที่เวลา 11.45น. เหลืออีก 15 นาที เป็นเวลาที่นศ.ขึ้นมาบนเวที ขอบคุณผม แล้วก็ให้ของขวัญที่ระลึก

จบที่เที่ยงตรง perfect timing จริงๆ

สรุป แล้วก็ประทับใจทั้งหมดทุกคนตั้งแต่กลุ่ม นศ.ที่จัดงาน อาจารย์ นักเรียนที่มาฟัง และนศ.ในมหาวิทยาลัยที่โดยเกณฑ์มาฟัง ถือว่าเป็นงานที่จัดได้ smooth มาก เหมือน pro และสนุกมากจริงๆ แต่ก็เหนื่อยมากจริงๆด้วย

เอาเป็นว่า หากมีงานคราวหน้าให้ไปพูดอะไรแบบนี้อีก ยิ่งถ้ากับนักเรียน วัยรุ่น กลุ่มขำขำแบบนี้ คงจะไม่พลาด