YouTube จัด YouTube Awards

YouTube จัดประกวด video clip ที่มา post ไว้ที่ YouTube โดยคนธรรมดาอย่างเราๆก็สามารถเข้าไปช่วยกัน vote ได้เช่นกันที่ http://www.youtube.com/YTawards

สำหรับตัวเต็งในงานนี้ก็มีอย่าง Lonelygirl 15, OKgo, หรือแม้กระทั่ง 2 คนจาก Hongkong ที่เอาเพลง I want it that way มาเล่นในหอพักตัวเอง ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเต็งเช่นกัน

Adobe CS 3 มาแล้ว

กำลังมาแล้วนะ สำหรับ Adobe Creative Suite 3 หรือ CS 3 นั่นเอง โดยมีหมายกำหนดการณ์ในการเปิดตัววันที่ 27 มีนาคม 2550 ที่ New York

CS 3 น่าจะเป็นอะไรที่หลายๆคนรอคอย โดยเฉพาะคนที่ใช้ Mac เพราะว่า version นี้จะ support unicode ทำให้ mac สามารถ run Photoshop, Illustrator ได้เนียน เร็วมายิ่งขึ้น

สำหรับใครก็ตามที่สนใจอยากจะดูงานเปิดตัวนี้ สามารถเข้าไป join ได้แบบสดๆ ในวันงานได้ที่เว็บ http://www.adobe.com/products/creativesuite/launchevent/ นี้ครับ

ส่วนรายละเอียดของ feature เพิ่มเติมต่างๆ หาอ่านต่อได้จากนี่นะครับ (เผื่อจะยังไม่ได้เข้ามามีโอกาสแปลให้อ่านกัน เดี๋ยวจะ out ซะก่อน) http://www.adobe.com/products/photoshop/ps_psext_info.html

Wikiseek search engine จาก Wikipedia

วันนี้ google กำลังมีคู่แข่งใหม่ของการเป็น search engine นั่นคือ wikiseek.com ของ wikipedia โดยมีจุดเด่นที่น่าสนใจคือ ผลการ search นั้น ในขั้นต้น (ซึ่งตอนนี้เป็น beta อยู่) จะเอา result ส่วนหนึ่งมาจาก wikipedia ซึ่งทำให้ user ที่เข้ามาอ่าน หากเห็นว่าผิด ก็สามารถแก้ไข search result นั้นๆ ได้ (concept เหมือน wikipedia เปี๊ยบ) อย่างที่ 2 คือ เนื่องจากเว็บนี้เป็นเว็บ 2.0 และน่าจะเป็น Ajax นะ ที่ทำให้เว็บนี้สามารถแสดง result สดๆ ได้เลยในขณะที่กำลังพิมพ์ search อยู่..

อธิบายแล้วงงๆ ลองเข้าไปดูเองละกันนะ ที่ wikiseek.com

EDGE มาแล้ว โดยเครือข่าย AIS คลอบคลุม 76 จังหวัดทั่วประเทศ

เอไอเอสปักธงโมบายอินเทอร์เน็ต ยึดหัวหาดบริการเสริมนอนวอยซ์ ทิ้งคู่แข่ง 2-3 ปี คาดทำรายได้นอนวอยซ์เพิ่ม 20% จาก 1.2 หมื่นล้านในปีที่ผ่านมา พร้อมทุ่มเงินลงทุนขยายเครือข่าย 2 หมื่นล้านบาท

นายวิเชียร เมฆตระการ กรรมการผู้อำนวยการบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิสหรือเอไอเอสกล่าวว่าปีนี้เอไอเอสจะลงทุนด้านเครือข่ายประมาณ 500 ล้านเหรียญสหรัฐฯหรือประมาณ 2 หมื่นล้านบาท โดยมุ่งเน้นพัฒนาเครือข่ายในต่างจังหวัดโดยเฉพาะการเพิ่มช่องสัญญาณในภาคอีสาน รวมทั้งการพัฒนาเครือข่ายให้รองรับการใช้บริการด้านการสื่อสารข้อมูล (DATA) ที่เริ่มได้รับความนิยมมากขึ้น

เอไอเอสได้ติดตั้งเทคโนโลยี EDGE (Enhanced Data Rate for GSM Evolution) ครอบคลุมทั่วประเทศ ทำให้ความเร็วในการส่งข้อมูลเพิ่มขึ้นเป็น 5 เท่าของ GPRS ซึ่งจะทำให้มีผู้ใช้บริการได้มากขึ้น โดยความจุของ EDGE สามารถรองรับการใช้งานได้จนถึงสิ้นปีหรือ 5-6 ล้านมือถือที่รองรับ EDGE ซึ่งปัจจุบันมีอยู่ในตลาดประมาณ 2 ล้านเครื่อง

“เอไอเอสจะหาเทคโนโลยีใหม่ ที่ทำให้ความเร็วในการส่งข้อมูลได้สูงสุดเท่าที่ใบอนุญาตจะสามารถทำได้ เพื่อให้บริการกับลูกค้า”

เทคโนโลยี EDGE ของเอไอเอสจะลงตามหัวเมืองใหญ่ที่มีสถิติการใช้งานด้านข้อมูลค่อนข้างสูงประมาณ 80% อย่างในกรุงเทพฯและปริมณฑลจะมี EDGE ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 70%

ด้านนายสมชัย เลิศสุทธิวงศ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ ส่วนงานธุรกิจสื่อสารไร้สาย เอไอเอสกล่าวว่าวันนี้เอไอเอสจะให้ความสำคัญกับเรื่องโมบาย อินเทอร์เน็ต หลังจาก EDGE ครอบคลุมทั่วประเทศ โดยเอไอเอสมองว่าบริการนอนวอยซ์จะมีการเติบโตมากขึ้น และเป็นการขยายฐานของผู้ที่คุ้นเคยโลกอินเทอร์เน็ตหันมาใช้อินเทอร์เน็ตผ่านโทรศัพท์มือถือซึ่งปัจจุบันโทรศัพท์มือถือที่เป็นซิมเบียนพร้อมรองรับการใช้งานแล้ว 6-7 ล้านเครื่อง โดยยุทธศาสตร์ของเอไอเอสคือการเติบโตไปพร้อมกับ Strategic Partner ที่มีอยู่ 200-300 ราย โดยเอไอเอสจะไม่ลงไปแข่งด้านคอนเทนต์กับพาร์ตเนอร์ ซึ่งบริการที่คาดว่าจะได้รับการตอบรับจากตลาดมากคือบริการอย่างเสิร์ชเอ็นจิ้นของกูเกิล หรือแชทของ MSN

“ความเร็วในการส่งข้อมูลของ EDGE ที่เพิ่มขึ้น 5 เท่าจะทำให้ผู้ใช้บริการนิยมมากขึ้นไม่ว่าจะเป็นการดูหนัง ฟังเพลง การดาวน์โหลดเต็มเพลง ซึ่งจะทำได้รวดเร็วขึ้น”

เขาย้ำว่าเอไอเอสมีความก้าวหน้าด้านบริการเสริมมากกว่าคู่แข่ง 2-3 ปี โดยบริการเสริมของเอไอเอสจะเป็นการนำโลกของอินเทอร์เน็ต คอนเทนต์ และอินเทอร์เน็ต แอปพลิเคชั่นต่างๆมาใช้งานบนโทรศัพท์มือถือและเพื่อย้ำให้เห็นประสิทธิภาพ EDGE ของเอไอเอส ตั้งแต่วันนี้จนถึง 30 เม.ย.เอไอเอสมอบส่วนลดดาต้าการ์ด 20% สำหรับลูกค้าที่ซื้อ 3G/EDGE/GPRS Data Card รุ่น E620 จาก MFA ในราคา 7,990 บาท และพร้อมทดลองใช้EDGE/GPRS ฟรีเดือนละ 50 ชม.เป็นเวลา 6 เดือน พร้อมแพคเกจพิเศษสมัครใช้ GPRS แบบต่อเนื่อง ตั้งแต่เดือนละ 3 ชม. 30บาท หรือ100 ชม. 350 บาทและใช้ไม่จำกัดเดือนละ 999 บาทหรือแพคเกจใช้ 30 วัน 1 ชม. 20 บาท หรือ 5 ชม. 50 บาท

“ปีนี้รายได้จากบริการนอนวอยซ์จะเพิ่มขึ้นประมาณ 20% จากปีที่แล้ว 1.2 หมื่นล้านบาท โดยเราเชื่อว่าโมบายอินเทอร์เน็ตจะกระตุ้นให้เกิดการใช้งานมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าที่ใช้อินเทอร์เน็ตและมีความคุ้นเคยกับเสิร์ช เอ็นจิ้น แชท เมล์ รวมทั้งพวกที่นิยมเรื่องเพลง ก็จะหันมาใช้บริการดาวน์โหลดเต็มเพลงมากขึ้นเพราะความเร็วในการส่งข้อมูลที่เพิ่มมากขึ้นจาก EDGE”


จาก ผู้จัดการออนไลน์ 9 มีนาคม 2550 09:30 น.

403 Ways to Slice a CD

มี article ที่อ่านมาจาก wired ฉบับเดือนมีนาคม 2007 ที่พูดถึงเรื่อง Snack Culture แล้วสะดุดที่เรื่องของการที่ Warner Music ประเทศเกาหลี สามารถหาทางสร้างรายได้จาก CD ที่มีเพลงอยู่ทั้งหมด 16 เพลง แต่สามารถแยกขายออกมาได้ถึง 403 SKUs (Stock keeping units). ลองดูว่า 403 SKUs นั้นมีอะไรบ้าง..


403 Ways to Slice a CD
An album isn't just an album anymore - it's an opportunity to dice a dozen songs into ringtones, downloads, blog skins, and more. Warner Music found 23 ways to market one South Korean pop star's 16-track album - for a total of 403 SKUs (stock keeping units). And that doesn't include the extended dance remix.
- Joanna Pearlstein




















Music Form (# of SKUs)
• CD (standard release) (1)
• CD (bonus features) (2)
• Full track download (2)
• Full track rental (limited use) (16)
• Full track streaming (á la carte) (16)
• Full track streaming (subscription) (16)
• Album download (permanent) (14)
• Online video download (3)
• Blog skin (music plays on blog with images) (15)
• Digital karaoke (16)
• Music letter (ecard with tunes) (16)
• Full track download (16)
• Full track streaming (16)
• My bell (ringtone melody) (16)
• Live bell (ringtone melody with remixes) (48)
• Mix ring (snippets of 3 songs combined into 1 track) (16)
• Mix bell (same as mix ring, but outgoing) (16)
• Live bell plus screensaver (downloads ringtone with images) (12)
• Color call (plays in background during a call) (16)
• Ringback tone (112)
• Video screensaver (12)
• Mobile video downloads (3)
• Mobile video-on-demand (3)

Helvetica the Movie

อีกไม่นาน เราก็จะได้ชมหนังประเภทสารคดีที่เกี่ยวข้องกับการเป็น graphic designer อย่างเราๆ.. หนังเรื่องนี้มีชื่อว่า "Helvetica" เล่นโดย Erik Spiekerman และ Nevelle Brody พูดง่ายๆก็คือเป็นหนังที่เล่าถึงประวัติของ font Helvetica (ซึ่งมีจุดกำเนิดมาจากคำว่า Helvetia ในภาษา Latin แปลว่า Switzerland) ที่สร้างขึ้นโดย Eduard Hoffmann ทั้งนี้เพื่อเป็นการฉลองครบรอบ 50 ปี ที่ font นี้ได้รับความนิยมมากๆ และก็เรียกได้ว่าเป็น font ที่สวยมากๆ ใช้งานได้ทุกประเภท ใช้ที่ไหนก็ work ถ้างานไหนกะว่าทำแล้วยากที่จะผ่าน หรือเลือก font ลำบาก Helvetica ก็ถือได้ว่าเป็นตัวเลือกอันดับหนึ่ง

ถ้าอยากรู้เรื่องเพิ่มเติม เข้าไปดูได้ที่ Helvetica Site นะครับ

MSN Plus Live! ของฟรีดีดีมีให้ลอง

Update สำหรับพวกที่ชอบ chat MSN ก็ได้ออก MSN Plus Live! version 4.20.262 มาเพื่อเพิ่มเติมความสามารถของ MSN โดยไม่เก็บตังสักกะบาท

ตัว MSN Plus Live! นี่ก็มี feature ใหม่ๆ เพิ่มเข้ามาตรึมเลย เช่น

• การมี Tab ที่สามารถให้เราสลับคู่สนทนาได้อย่างรวดเร็ว (ไม่ต้องมานั่งสลับหน้าต่าง.. feature เดียวกันกะ firefox และ ie7)
• การพิมพ์ข้อความด่วน โดยเราสามารถบันทึกข้อความที่พิมพ์ซ้ำๆ บ่อยๆ ไว้เพื่อใช้งานได้อย่างรวดเร็วในครั้งต่อๆไป
• การอัดเสียงส่วนตัว หรือใช้ไฟล์ mp3 แทรกเข้าไปเวลา chat
• การเปลี่ยนสี แต่งสี text และ background
• การตั้งชื่อสถานะของเรา และการกำหนดให้สามารถเปลี่ยนสถานะของเราได้ในเวลาที่กำหนด
• การ Lock Messenger โดยการซ่อนไว้ที่ system tray และป้องกันด้วย password อีกชั้น (ในกรณีที่ชอบมีเพื่อนๆ มาแอบดูแอบอ่านว่าเราไป chat อะไรกะใครเค้าไว้)
• รายชื่อบน desktop เห็นว่าเหมือน ICQ (แบบว่าไม่เคยใช้ ICQ รุ่นหลังๆ เลยไม่รู้ว่าเหมือนจริงมั้ย) โดยลักษณะก็คือการแสดงชื่อของเพื่อนๆที่คุยๆกันอยู่บน desktop และเราก็สามารถที่จะลาก link หรือ file ส่งไปให้ชื่อนั้นๆ ได้อย่างรวดเร็ว
• การบันทึกข้อความที่เคยคุยไว้เป็น HTML
• ความสามารถในการเปิด MSN ได้ทีละหลายๆตัว
• ความสามารถในการ auto check e-mail อื่นๆ ที่ไม่ใช่ hotmail
• และสุดท้ายคือการเก็บ log file ว่าใคร online offline เมื่อไร่ สถานะเป็นยังงัยกันบ้าง

อย่างไรก็ตาม.. หากจะ download หรือหาข้อมูลเพิ่มเติม ก็ไปตาม link นี้นะครับ

http://www.msgpluslive.net

** โอ๊วว ลืมไปอีกเรื่อง เห็นเค้า claim ว่างานนี้ไม่มีการใส่ software แฝง หรือโฆษณาแฝงแต่อย่างใด (คือแบบว่าจะมี option ให้เลือกว่าจะรับโฆษณาหรือไม่ ถ้าตอน install กด next next next โดยไม่ดู ก็อาจจะพลาดไปรับโฆษณาได้)

ตลาดเสิร์ชปี 2006 กูเกิลกินเรียบ

รายงานจากบริษัทวิจัยทางการตลาด 3 แห่งออกมาให้ผลตรงกันว่า ตลาดเสิร์ชเอนจินในปี 2006 มีกูเกิลเพียงรายเดียวที่เติบโต ส่วนคู่แข่งรายอื่นถูกกูเกิลกินตลาดกันถ้วนหน้า

ถ้าเอาข้อมูลล่าสุด (มกราคม 2007) ส่วนแบ่งตลาดของกูเกิล, ยาฮู, ไมโครซอฟท์อยู่ที่ 53.7, 22.7 และ 10.6 ตามลำดับ อันนี้ผมอ้างข้อมูลของ Nielsen ถ้าใช้ของ ComScore ตัวเลขจะอยู่ที่ 47.5, 28.1 และ 8.75

คนที่อาการหนักสุดคือไมโครซอฟท์ ส่วนแบ่งตลาดเมื่อเดือนมกราคม 2006 อยู่ที่ประมาณ 11-12% ถ้าเอาข้อมูลของ ComScore ที่ลดลงมาเหลือ 8.75% แปลว่าเงินมากมายที่ลงทุนไปใน Windows Live Search ไม่เกิดผลอะไรเลย สำหรับยาฮูตัวเลขทรงตัวไม่เพิ่มไม่ลด กลุ่มผู้ใช้พอร์ทัลของยาฮูก็ยังเหนียวแน่นไม่เปลี่ยนใจไปไหน

อันดับรองๆ ลงไปอย่าง Ask.com หรือ AOL ก็ประสบปัญหาโดนกินตลาดเช่นกัน ปฏิกิริยาจากฝั่งไมโครซอฟท์เริ่มออกมาแล้ว โดย Ray Ozzie (คนที่มาแทนเกตส์) ออกมาให้สัมภาษณ์ว่ากูเกิลเป็น "wake-up call" ของไมโครซอฟท์ และเขากำลังวางรากฐานให้ไมโครซอฟท์พร้อมสำหรับซอฟต์แวร์บนเว็บอยู่

ที่มา - Ars Technica / Blognone